เลือกซื้อ หลอดไฟอัจฉริยะ อย่างไรให้เหมาะกับบ้านคุณ

       หลอดไฟอัจฉริยะ เป็นจุดเริ่มต้นที่ง่ายที่สุดสำหรับผู้ที่ต้องการเริ่มต้นใช้เทคโนโลยีบ้านอัจฉริยะ หลอดไฟมักจะเป็นอุปกรณ์ smart home ตัวแรกที่คนส่วนใหญ่เลือกนำมาใช้งาน เนื่องจากติดตั้งใช้งานง่าย ราคาไม่สูงมาก และมีตัวเลือกมากมายในตลาดอุปกรณ์สมาร์ทโฮม ก่อนซื้อหลอดไฟควรเรียนรู้เกี่ยวกับฟังก์ชั่นต่างๆ พิจารณาว่าเหมาะสมกับความต้องการใช้งานในบ้านของคุณหรือไม่ พร้อมกับดูการสาธิตและทดลองใช้หลอดไฟกับผู้จำหน่ายเพื่อให้เข้าใจวิธีการควบคุมและใช้คำสั่งได้ถูกต้อง จึงจะเลือกซื้อหลอดไฟอัจฉริยะที่เหมาะกับบ้านของคุณมากที่สุด 

       บ้านทั่วไปสามารถเปลี่ยนมาใช้อุปกรณ์ smart home ได้หลายรายการนับตั้งแต่หลอดไฟและปลั๊กไปจนถึงสวิตช์ไฟแบบ Smart switch เมื่อเปลี่ยนเป็นหลอดไฟอัจฉริยะแล้วจะช่วยอำนวยความสะดวกในการสั่งเปิดและปิดไฟหรือสวิตช์เครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ โดยอัตโนมัติ หลอดไฟมักจะเป็นตัวเลือกอันดับแรกเพราะราคาย่อมเยากว่าอุปกรณ์อื่น วิธีการทำงานไม่ซับซ้อน เพียงดาวน์โหลดแอปพลิเคชันลงบนโทรศัพท์มือถือหรือแท็บเล็ต แตะหน้าจอเพื่อสั่งเปิด-ปิดไฟแต่ละดวงจากระยะไกล เช็คสถานะไฟว่าเปิดหรือปิดแม้ว่าตัวคุณจะไม่ได้อยู่ที่บ้าน มีฟังก์ชั่นปรับความสว่าง เปลี่ยนเฉดสี และตั้งค่าจังหวะไฟกระพริบได้ นอกจากนี้ยังตั้งค่าการเปิดและปิดตามเวลาที่กำหนดได้อีกด้วย  สามารถควบคุมหลอดไฟอัจฉริยะได้ตามใจเพียงแต่ต้องมีการเชื่อมต่อผ่านอินเทอร์เน็ต รวมถึงอุปกรณ์ใช้ประโยชน์อื่นๆ เช่น ตัวเซ็นเซอร์ Smoke Detector ตรวจจับควันที่เป็นระบบเตือนภัยพร้อมแจ้งเหตุไฟไหม้ที่มีประสิทธิภาพ แม้ว่าจะไม่มีใครอยู่บ้าน เป็นต้น

เลือกซื้อหลอดไฟให้เหมาะกับบ้าน ต้องพิจารณาอะไรบ้าง

     หลอดไฟอัจฉริยะมีฟังก์ชั่นการใช้งานหลายรูปแบบ นับตั้งแต่การเช็คสถานะหลอดไฟทั่วบ้านจากแอปพลิเคชั่นบนโทรศัพท์มือถือโดยไม่ต้องเดินไปเช็ครอบบ้าน สามารถควบคุมการเปิด-ปิดจากระยะทางไกล ตลอดจนการตั้งเวลาล่วงหน้าให้เปิดหรือปิดโดยอัตโนมัติ หลอดไฟแต่ละแบรนด์มีคุณสมบัติและการใช้งานแตกต่างกัน ควรรู้ก่อนเลือกซื้อ ดังต่อไปนี้

1.ปรับแสงสว่างได้

     นับเป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้หลอดไฟอัจฉริยะได้รับความนิยม การปรับลดหรือเพิ่มแสงสว่างสร้างบรรยากาศที่น่ารื่นรมย์ยิ่งขึ้น ห้องนั่งเล่น ห้องนอน หรือห้องอื่นๆ ในบ้านต้องการความสว่างของแสงแตกต่างกัน ต้องการความสว่างมากน้อยแค่ไหนกำหนดได้ตามใจ เวลาอ่านหนังสือปรับแสงให้สว่างมากขึ้น ปรับลดแสงให้มืดลงเวลาดูหนัง ปรับแสงไฟให้นุ่มนวลอบอุ่นเวลางีบหลับพักผ่อนช่วยเพิ่มคุณภาพการนอนหลับ หรือปรับแสงเปิดไฟสลัวในตอนเช้าเพื่อให้ดวงตาค่อย ๆ ปรับรับแสงสว่างอย่างช้า ๆ ตลอดจนสั่งเปิดไฟข้างประตูก่อนที่จะขับรถกลับถึงบ้าน

เนื่องจากแอปพลิเคชั่นบนมือถือเปลี่ยนสีและความสว่างของแสงได้ตามต้องการ สามารถตั้งค่าล่วงหน้าให้หลอดไฟอัจฉริยะทำงานโดยอัตโนมัติ เช่น เปลี่ยนสีจากโทนสีน้ำเงินเป็นสีขาวในเวลากลางวันเพื่อทำให้แสงสว่างแบบธรรมชาติช่วยให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ จากนั้นเปลี่ยนเป็นเฉดสีนวลและอบอุ่นในตอนกลางคืนเพื่อพักสายตาและเตรียมร่างกายให้พร้อมนอนหลับสนิทดีขึ้นในตอนกลางคืน

2.ปรับสีได้หลายเฉดสี

      ถ้ามีความจำเป็นต้องปรับเฉดสีให้หลากหลายควรเลือกหลอดไฟอัจฉริยะแบบที่ปรับสีได้หลายเฉด เลือกได้หลายอุณหภูมิสี สามารถปรับอารมณ์และบรรยากาศของห้องให้แตกต่างกันตอบโจทย์การใช้งานได้ตรงใจ ในด้านการปรับอุณหภูมิสีสามารถแบ่งคร่าว ๆ ได้ 3 เฉดสีหลัก ได้แก่ วอร์มไวท์ (Warm white) หรือสีเหลืองเข้มจนถึงสีส้มสบายตา สร้างบรรยากาศอบอุ่น ให้รู้สึกผ่อนคลายสบายตา ถัดมาเป็นเฉดคูลไวท์ (Cool white) หรือสีขาวนวลโทนอบอุ่นให้ความรู้สึกมีชีวิตชีวา และ เดย์ไลท์ (Daylight) หรือสีขาวเหมือนแสงสว่างในธรรมชาติ ให้ความรู้สึกสดใส กระตุ้นให้รู้สึกกระปรี้กระเปร่า กระฉับกระเฉง หลอดไฟแบบที่มีเฉด

3.ประหยัดพลังงาน

      หลอดไฟอัจฉริยะช่วยประหยัดพลังงานได้เพราะเป็นหลอดไฟ LED คุณภาพสูงมีความทนทาน ใช้งานได้ยาวนานและให้แสงสว่างได้ดีกว่าหลอดไฟทั่วไป นอกจากนี้ยังไม่สะสมความร้อนบริเวณหลอดและปล่อยความร้อนออกมาน้อยกว่าหลอดไฟธรรมดา จึงช่วยลดอุณหภูมิความร้อนภายในบ้าน คลายความร้อนให้บ้านได้ไม่ต้องเปลืองค่าแอร์

4.ควบคุมจากระยะไกลได้

     คุณสมบัติเด่นของหลอดไฟอัจฉริยะคือการตั้งค่าเวลาให้เปิดและปิดหลอดไฟล่วงหน้าได้ รวมถึงสามารถควบคุมสั่งงานจากระยะไกลผ่านอินเทอร์เน็ตได้จากทุกที่ เช็คหลอดไฟทุกดวงในบ้านว่าเปิดหรือปิดผ่านแอปพลิเคชั่นที่ดาวน์โหลดมาติดตั้งบนหน้าจอโทรศัพท์มือถือ สามารถควบคุมหลอดไฟทั่วทั้งบ้าน สั่งเปิดและปิดหลอดไฟทุกดวงได้ด้วยการแตะเพียงครั้งเดียว รวมทั้งเปลี่ยนความสว่างหรือเปลี่ยนเฉดสีได้พร้อม ๆ กันด้วย ระบบการควบคุมจากระยะไกลช่วยให้ออกคำสั่งได้จากทุกที่ ไม่ว่าจะนอนอยู่บนเตียง หรือนั่งอยู่ที่โต๊ะในที่ทำงาน หรือออกไปเที่ยวต่างจังหวัด นับได้ว่าหลอดไฟอัจฉริยะเป็นส่วนหนึ่งของ ระบบความปลอดภัย ภายในบ้าน สามารถตั้งเวลาเปิด-ปิดตามต้องการเพื่อให้มิจฉาชีพที่มาดูลาดเลาเห็นไฟสว่างและเข้าใจว่ามีคนอยู่บ้านจึงช่วยป้องกันการโจรกรรมได้ในระดับหนึ่ง

5.สั่งงานด้วยเสียงได้

      หลอดไฟอัจฉริยะบางรุ่นสามารถสั่งงานด้วยเสียงได้ โดยใช้แอปพลิเคชั่น Alexa และ Google Assistant เป็นระบบสั่งงานด้วยเสียงที่นิยมใช้กันมากด้วยคำสั่งง่าย ๆ เช่น “หรี่โคมไฟตั้งโต๊ะ” “เพิ่มแสงสว่างไฟห้องนั่งเล่น” “ปิดไฟในห้องนอน” โดยเฉพาะอย่างยิ่งการพูดง่าย ๆ ว่า “ปิดไฟทั้งหมด” เมื่อนอนอยู่บนเตียงแล้วและไม่อยากลุกไปปิดไฟทีละดวงทั่วทั้งบ้าน ระบบสั่งงานด้วยเสียงเพิ่มความสะดวกสบายใน บ้านอัจฉริยะ ทำให้ชีวิตง่ายขึ้นอีกระดับ ถ้าจะให้ดีหลอดไฟอัจฉริยะควรเชื่อมต่อได้ทั้งระบบปฏิบัติการ iOS หรือ Android เผื่อไว้ในกรณีที่เปลี่ยนโทรศัพท์ใหม่ที่รองรับระบบปฏิบัติการแตกต่างกัน ทำให้เชื่อมต่อกับระบบสั่งงานด้วยการแตะหน้าจอและสั่งงานด้วยเสียงได้แบบไม่มีสะดุด

6.เชื่อมต่อผ่าน Wi-Fi และ Bluetooth ได้แบบไม่มีสะดุด

      หลอดไฟอัจฉริยะใช้การส่งสัญญาณแบบไร้สายเชื่อมต่อผ่าน Wi-Fi และ Bluetooth ไม่ต้องใช้สาย LAN เชื่อมต่อกับเราเตอร์โดยตรง สะดวกในการใช้งานอุปกรณ์สมาร์ทโฮมเพื่อควบคุมการเปิด-ปิดหลอดไฟได้จากทุกที่ที่มีการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต 

7.ใช้งานทนทานคุ้มค่า

       ไม่ต้องสงสัยเลยว่า หลอดไฟอัจฉริยะ เป็นหลอดประหยัดไฟมากกว่าหลอดไฟธรรมดาสามารถลดค่าไฟภายในบ้านได้สูงสุด 60% ทำให้คนทั่วไปเริ่มสนใจเปลี่ยนมาใช้งานอุปกรณ์สมาร์ทโฮมกันมากขึ้น ในเมื่อราคาอยู่ในเกณฑ์ที่เอื้อมถึง อีกทั้งวัสดุมีคุณภาพสูงกว่าหลอดไฟทั่วไป ก่อนซื้อควรพิจารณาหลอดไฟที่มีชั่วโมงการใช้งานยาวนานและช่วยเซฟเงินในกระเป๋าได้ในระยะยาว

8.ประหยัดเงินและเวลา

     หลอดไฟอัจฉริยะเปลี่ยนสีและแสงสว่างได้ช่วยประหยัดเงินและเวลาโดย ไม่ต้องเปลี่ยนหลอดไฟใหม่ก็สามารถเปลี่ยนอุณหภูมิ แสง สี และความสว่าง ช่วยเพิ่มความสวยงามให้กับแต่ละห้องในบ้านผ่านแอปพลิเคชั่นที่ใช้ง่าย ๆ สร้างบรรยากาศที่เหมาะกับอารมณ์หรือตกแต่งสถานที่ให้เหมาะกับการจัดงานเลี้ยงในโอกาสต่าง ๆ ได้ง่ายยิ่งขึ้น

9.ช่วยรักษาสภาพแวดล้อม

     หลอดไฟอัจฉริยะส่วนใหญ่จะเป็นหลอด LED ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ไม่มีสารปรอทในการผลิต แสงไฟที่ปล่อยออกมาไม่มีรังสี UV และรังสีที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ จึงมีความปลอดภัยไม่ส่งผลกระทบต่อดวงตาและสุขภาพของผู้ใช้งานและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม การเปลี่ยนมาใช้หลอดไฟอัจฉริยะยังเป็นการช่วยลดภาวะโลกร้อนได้อีกด้วย

10.เลือกหลอดไฟที่ตั้งค่าแสงไฟโดยอัตโนมัติ

      เนื่องจากแอปพลิเคชั่นบนมือถือเปลี่ยนสีและความสว่างของแสงได้ตามต้องการ สามารถตั้งค่าล่วงหน้าให้หลอดไฟอัจฉริยะทำงานโดยอัตโนมัติ เช่น เปลี่ยนสีจากโทนสีน้ำเงินเป็นสีขาวในเวลากลางวันเพื่อทำให้แสงสว่างแบบธรรมชาติช่วยให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ จากนั้นเปลี่ยนเป็นเฉดสีนวลและอบอุ่นในตอนกลางคืนเพื่อพักสายตาและเตรียมร่างกายให้พร้อมนอนหลับสนิทดีขึ้นในตอนกลางคืน

    ปัจจุบันเทคโนโลยีระบบแสงสว่างมีการปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง หลอดไฟอัจฉริยะรุ่นใหม่มาพร้อมกับคุณสมบัติที่ใช้งานมากขึ้น ทนทานและใช้งานคุ้มค่ามากขึ้น สามารถควบคุมแบบไร้สายโดยการซิงค์กับแอปพลิเคชั่นต่าง ๆ เช่น Google Assistant, Amazon Alexa หรือ Apple Home หรือทำงานร่วมกับอุปกรณ์อัจฉริยะอื่น ๆ ทำให้ชีวิตในบ้านสะดวกสบายกว่าที่เคยเป็น

      สำหรับผู้ที่สนใจเปลี่ยนบ้านให้เป็น Smart Home แบบง่าย ๆ การเปลี่ยนหลอดไฟเป็นวิธีที่ง่ายที่สุด อุปกรณ์สมาร์ทโฮมส่วนใหญ่ติดตั้งแบบไร้สายได้  นอกจากหลอดไฟอัจฉริยะแล้ว ยังมีอุปกรณ์อัจฉริยะมากมายที่ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายและอัปเกรดระบบความปลอดภัยภายในบ้าน เช่น กล้องวงจรปิด ล็อกประตูดิจิตอล กริ่งประตูอัจฉริยะ เซ็นเซอร์จับความเคลื่อนไหว เซ็นเซอร์ตรวจจับควันไฟ สามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://www.smartsafetyservice.com/

เราใช้คุกกี้เพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น