เพิ่มความอุ่นใจให้กับพนักงานในคลังสินค้าและความสะดวกสบายของผู้ประกอบการ ด้วย smart home

      เกือบทุกธุรกิจที่มีกระบวนการในการผลิตและต้องสต็อกสินค้าไว้ จะต้องมีคลังสินค้าไว้คอยจัดเก็บสินค้าหรือเป็นที่พักสินค้าเพื่อเป็นศูนย์กลางในการกระจายสินค้า หัวใจหลักของการดูแลคลังสินค้าคงหนีไม่พ้นในเรื่องของ ระบบความปลอดภัย โดยเฉพาะในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมานี้หลายคนคงเคยได้ยินเกี่ยวกับการเกิดเพลิงไหม้โรงงานและคลังสินค้าชื่อดังหลายแห่ง ส่งผลให้เกิดความเสียหายเป็นวงกว้าง หากมีระบบความปลอดภัยและอุปกรณ์ในการแจ้งเหตุที่ดี มีคนคอยตรวจสอบการทำงานให้อยู่ในสภาพปกติตามมาตรฐาน ก็จะช่วยลดความเสี่ยงและความรุนแรงเมื่อเกิดเหตุได้   

ดังนั้น เพื่อความอบอุ่นใจในการทำงานของพนักงานและเพื่อความสบายใจของผู้บริหาร จะได้ไม่ต้องกังวลในช่วงวันหยุดและเวลาหยุดยาวในช่วงเทศกาลต่าง ๆ ของไทย จึงขอแนะนำ 5 ข้อ ปฏิบัติสำหรับการบริหารจัดการคลังสินค้าให้มีความปลอดภัย

1.ใช้รถเข็น, รถโฟล์คลิฟต์ ในการเคลื่อนย้ายสินค้า 

     เป็นที่แน่ชัดว่าภายในคลังสินค้าจะต้องมีภาชนะ บรรจุหีบห่อ ทั้งขนาดเล็ก กลาง ใหญ่ ซึ่งแต่ละชนิดก็จะมีน้ำหนักที่แตกต่างกันไป ในบางจุดชั้นสินค้าอาจมีหลายชั้น ดังนั้นในการเคลื่อนย้ายสินค้าจึงควรมีรถเข็น รถโฟล์คลิฟต์ให้พนักงานได้ใช้งานในการบรรทุกสินค้าเพื่อความปลอดภัย โดยเฉพาะการจัดเก็บสินค้าหนักในพื้นที่สูง รถโฟล์คลิฟต์มีความจำเป็นอย่างมาก และทางบริษัทเองก็ควรจัดส่งพนักงานที่ใช้งานรถโฟล์คลิฟต์ไปฝึกอบรมและสอบใบอนุญาตในการขับขี่รถโฟล์คลิฟต์ เพื่อความปลอดภัยและปฏิบัติงานได้อ่างถูกต้องตามกฎหมาย

2.ออกแบบและจัดการพื้นที่ให้มีความเหมาะสม 

       ภายในบริเวณคลังสินค้าควรวางแบบแปลนพื้นที่ในการจัดเก็บให้เป็นระบบเรียบร้อย ระยะห่างระหว่างชั้นเก็บของ ควรเว้นระยะให้รถเข็น รถโฟล์คลิฟต์ เข้าใช้งานได้สะดวก จัดทำหมวดหมู่ของสินค้าให้เป็นระเบียบเพื่อที่จะหาสินค้าได้ง่าย ติดตั้งป้ายสต็อกการ์ด, กำหนดวันเดือนปีที่ผลิตและวันเดือนปีที่หมดอายุ ระบุ Lot ในการผลิต ใช้หลักการทำงาน First In, First Out เพื่อที่จะบริหารสินค้าไม่ให้เกิดสินค้าค้างสต็อกหรือหมดอายุก่อน เมื่อวางแบบแปลนให้เหมาะสมและเป็นระเบียบก็จะช่วยให้หาสินค้าได้ง่ายและทำงานได้อย่างรวดเร็วมากยิ่งขึ้น

3.ติดตั้ง ระบบความปลอดภัย 

     ก่อนที่จะทำการติดตั้ง ระบบความปลอดภัย ในคลังสินค้า จำเป็นที่จะต้องใช้ จป.วิชาชีพ หรือหน่วยงานความปลอดภัยจากภายในและภายนอก เข้าช่วยประเมินความเสี่ยงและวางแผนในการติดตั้งอุปกรณ์และระบบความปลอดภัย เพราะจะต้องเลือกสินค้าและอุปกรณ์ที่เหมาะสมในการติดตั้ง เช่น มีสินค้าประเภทกระดาษอยู่เป็นจำนวนมาก การใช้ถังดับเพลิงประเภทน้ำอาจสร้างความเสียหายต่อตัวสินค้า จึงควรเลือกถังดับเพลิงแบบ CO2 หรือผงเคมีแห้ง จึงจะเหมาะสมกว่าและทำให้สินค้าเสียหายได้น้อยลงด้วย หรือการใช้สารเคมีประเภทฮาโลตรอนในการดับเพลิงประเภทอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ หรือแผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์ก็จะช่วยลดความเสียหายลงได้  

 

4.ใช้อุปกรณ์คุ้มครองความปลอดภัยส่วนบุคคล 

      สิ่งที่ขาดไม่ได้เลยสำหรับพนักงาน หรือเจ้าหน้าที่ที่ทำงานภายในคลังสินค้า นั่นคือเข็มขัดพยังหลัง อุปกรณ์ความปลอดภัยส่วนบุคคลที่ช่วยให้พนักงานได้รับความปลอดภัยจากการยกของหนัก ซึ่งมักจะส่งผลต่อสุขภาพของพนักงานในระยะยาว 

5.จัดอบรมและให้ความรู้พนักงานเรื่องความปลอดภัย 

        เชื่อได้ว่าทุกบริษัทจะต้องมีการจัดการอบรมพนักงานในเรื่องของการดับเพลิงเบื้องต้นและการอพยพหนีไฟตามที่กฎหมายกำหนด ซึ่งบางครั้งอาจไม่เพียงพอต่อความปลอดภัยในบางพื้นที่ ดังนั้นบริษัทควรให้ความรู้เรื่องความปลอดภัยเฉพาะพื้นที่ด้วย เช่น คลังสินค้า การสวมใส่อุปกรณ์คุ้มครองส่วนบุคคล การกดสัญญาณเตือน สัญญาณแจ้งเหตุ เพื่อสร้างขวัญและกำลังใจให้แก่พนักงานในการปฏิบัติงาน

รวบอุปกรณ์ความปลอดภัยและแจ้งเหตุ สำหรับคลังสินค้า 

     โดยปกติแล้วคลังสินค้าทุกแห่งส่วนใหญ่จะได้รับการติดตั้งระบบความปลอดภัย แต่ระบบความปลอดภัยที่มีอยู่เพียงพอกับความต้องการหรือไม่ หรือมีความทันสมัย สะดวก สบาย ในการใช้งานกว่าเดิมหรือไม่ เพราะปัจจุบันด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่ ทำให้มีอุปกรณ์ความปลอดภัยและแจ้งเหตุเกิดขึ้นมากมายและสร้างความสะดวกสบายให้แก่เจ้าของกิจการด้วยการสัมผัสหน้าจอมือถือด้วยปลายนิ้วเท่านั้น ด้วยอุปกรณ์ smart home ไม่ว่าจะอยู่ใกล้ ไกลแค่ไหนก็สามารถที่จะเช็คสถานะการทำงานของอุปกรณ์ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งเจ้าอุปกรณ์ smart home มีอะไรที่น่าสนใจบ้างนั้น ไปดูกันเลย

 

อุปกรณ์ smart home เทคโนโลยีสมัยใหม่ เพื่อความปลอดภัยทั้งบ้านและคลังสินค้า

      เดิมที่อุปกรณ์บ้านสมาร์ทโฮมได้รับการปรับแต่งจากอุปกรณ์ความปลอดภัยที่ติดตั้งตามอาคาร คลังสินค้า อยู่ก่อนแล้ว ก่อนที่จะนำมาประยุกต์ใช้กับบ้านให้มีความทันสมัยและปลอดภัยมากยิ่งขึ้น เช่น กล้องวงจรปิดไร้สาย Smoke Detector และอุปกรณ์อื่น ๆ ที่สามารถติดตั้งได้ด้วยตนเองโดยไม่ต้องเดินสายสัญญาณอีกทอด เหมาะกับการบริหารคลังสินค้าสมัยใหม่เป็นอย่างมาก เพราะเคลื่อนย้ายสะดวก สามารถติดตั้งได้มากตามต้องการ ด้วยระบบ กล้องวงจรปิด แบบเดิม ๆ จะต้องเดินสายสัญญาณ มี DVR ที่จำกัดจำนวนกล้อง ทำให้ไม่เพียงพอต่อการใช้งาน ซึ่งจะมีอะไรบ้างไปดูกัน

1.กล้องวงจรปิด

      ระบบกล้องวงจรปิด แบบเดิม ๆ จะโดนจำกัดจำนวนกล้องด้วย DVR ทำให้การเพิ่มจำนวนเป็นไปได้ยากและที่สำคัญสิ้นเปลืองค่าใช้จ่ายมาก เพราะหากต้องการติดตั้งเพิ่ม จะต้องซื้อ DVR และเดินสายสัญญาณ ในขณะที่ปัจจุบันมี กล้องวงจรปิดไร้สายที่สามารถอัปโหลดข้อมูลที่บันทึกส่งขึ้นไปบนระบบคลาวด์ได้แล้ว ทำให้หมดกังวลเวลาเกิดเหตุเพลิงไหม้แล้วไฟล์ที่บันทึกไว้จะได้รับความเสียหาย พร้อมกับระบบ Motion Sensor ที่ช่วยในเรื่องของการประหยัดพื้นที่ในการบันทึก เพราะจะบันทึกเฉพาะเหตุการณ์ที่มีการเคลื่อนไหวเท่านั้น การติดตั้งกล้องวงจรปิดเพิ่มจึงไม่ใช่ปัญหาอีกต่อไป สามารถที่จะเพิ่มจำนวนเท่าใดก็ได้ตามความพอใจ

2.Smoke Detector

        อุปกรณ์ตรวจจับควันอัจฉริยะ สามารถตรวจจับควันไฟ พร้อมส่งสัญญาณไปยังอุปกรณ์ควบคุม เพื่อแจ้งเตือนให้พนักงานและเจ้าของกิจการได้รับทราบเพื่อที่จะหาทางแก้ไขได้อย่างทันท่วงที เสริมสร้างความมั่นใจในทุกวันหยุด สามารถใช้โทรศัพท์มือถือตรวจสอบการทำงานของอุปกรณ์ว่ายังทำงานปกติดีหรือผ่านแอปพลิเคชัน สะดวกในการติดตั้งและใช้งาน ติดตั้งได้ทุกที่ ทั้งคลังสินค้า ออฟฟิศ สำนักงาน ห้องนอน ห้องนั่งเล่น หรือตามจุดเสี่ยงต่าง ๆ เพื่อความปลอดภัยให้กับพนักงานทุกคน

3.Sound and Light Alarm 

      สัญญาณไฟฉุกเฉินและแจ้งเตือน สั่งงานผ่านแอปพลิเคชัน เชื่อมต่อกับอุปกรณ์แจ้งเตือนอื่น ๆ ได้ ด้วยการทำงานร่วมกับ Gateway สามารถสั่งเปิดและปิดการทำงานด้วยตนเองง่าย ๆ ด้วยปลายนิ้ว 

4.ระบบอุปกรณ์ตรวจจับอุณหภูมิและความชื้น 

     บางคลังสินค้าหรือห้องคลีนรูมที่ต้องอาศัยการควบคุมอุณหภูมิและความชื้น จำเป็นที่จะต้องมีอุปกรณ์ Humidity and Temperature sensor เพื่อช่วยในการทำงานและตรวจสอบอุณหภูมิและความชื้นอยู่เสมอ ๆ เพื่อป้องกันสินค้าเสียหาย สามารถแจ้งเตือนไปยังแอปพลิเคชัน หากพบว่าอุณหภูมิและความชื้นสูง หรือต่ำกว่าที่กำหนดเอาไว้ สำหรับการติดตั้งก็ทำได้ง่าย ใช้งานสะดวก มาพร้อมฟังก์ชันดูข้อมูลย้อนหลัง เชื่อมต่อด้วย Zigbee ช่วยให้ไม่ต้องเปลี่ยนแบตเตอรี่บ่อย ๆ 

5.Smart Gateway

      อุปกรณ์ที่ใช้เชื่อมต่อและควบคุมการทำงานของ smart home ต่าง ๆ ให้สามารถทำงานร่วมกันแบบรวมศูนย์ รองรับการเชื่อมต่อของอุปกรณ์ได้มากถึง 50 อุปกรณ์ บริหารจัดการด้วยแอปพลิเคชันเพียงแอปเดียว ไม่ต้องโหลดเพิ่มให้เปลืองพื้นที่ แอปพลิเคชันเดียวอยู่ ทั้งกล้องวงจรปิด, เซ็นเซอร์ตรวจจับต่าง ๆ, สัญญาณเตือนไฟ, สมาร์ททีวี, ตู้เย็นและเครื่องใช้ไฟฟ้าอัจฉริยะต่าง ๆ มีความเสถียรภาพสูง 

6.กลอนประตูอัจฉริยะ  digital doorlock 

       เป็นที่รู้กันดีว่าคลังสินค้าย่อมมีสินค้าจำนวนมากและมีมูลค่า การเข้าออกจึงจำเป็นที่จะต้องได้รับการควบคุมเพื่อป้องกันบุคคลภายนอก หรือผู้ไม่ประสงค์ดีเข้าไปทำการลักทรัพย์ ด้วยเทคโนโลยีของกลอนประตูอัจฉริยะ หรือ digital doorlock ทำให้ควบคุมคนเข้าออกคลังสินค้าได้ ด้วยระบบสแกนลายนิ้วมือ หรือใช้รหัสผ่าน หากพบว่าข้อมูลไม่ตรงตามที่บันทึก ก็จะไม่สามารถเปิดประตูได้ นอกจากนี้ยังมีฟังก์ชันในการตรวจสอบคนเข้า-ออก ประตู เวลาในการเปิดปิด เพื่อสามารถตรวจเช็คความปลอดภัยย้อนหลังได้ สะดวก ปลอดภัย ยืนยันตัวตนในการเข้าใช้งานได้ดี

7.Motion Sensor 

      เซ็นเซอร์ตรวจจับการเคลื่อนไหว สามารถนำไปติดบริเวณประตู หน้าต่างและจุดอื่น ๆ ได้ตามต้องการ เพื่อตรวจสอบผู้บุกรุก โดยเฉพาะในตอนกลางคืนและวันหยุดพักผ่อนที่ใช้ระยะเวลาค่อนข้างนาน เช่น เทศกาลปีใหม่ สงกรานต์ เป็นต้น

จะเห็นว่าระบบความปลอดภัยในคลังสินค้ามีความสำคัญและจำเป็นอย่างมาก เพื่อสร้างความปลอดภัย ขวัญและกำลังใจของบรรดาพนักงาน รวมถึงผู้บริหารและเจ้าของกิจการให้อุ่นใจ เพราะนั่นหมายถึงทรัพย์สินอันมีค่า หากสามารถที่จะระงับเหตุการณ์ได้ก่อนที่จะบานปลายก็จะช่วยในเรื่องของความเสียหายที่จะเกิดขึ้นได้มากมายมหาศาลกันเลยทีเดียว  

สำหรับผู้ที่สนใจอุปกรณ์และระบบดังกล่าว  www.smartsafetyservice.com    ยินดีให้การบริการ ด้วยทีมงานมืออาชีพพร้อมสินค้าที่ดี มีคุณภาพ การรับประกันหลังการขาย เพื่อความอบอุ่นใจและความปลอดภัยของพนักงานและเจ้าของกิจการจะได้ทำงานด้วยความสบายใจ